12.30 : HSP: There is No Escape From the Terrors Of the Mind(2013, Rouzbeh Rashidi, Ireland, 120min) 14.45 : Birth Of Seanema(2004, Sasithorn Ariyavicha, Thailand, 70min)
2/3/57 Selected by Mr. G.: Introducing Jack Bond and Jane Arden
12.30 : Separation (1968 , Jack Bond ,UK) 14.30 : The Other Side of the Underneath (1972 ,Jane Arden ,UK)
9/3/7 Selected by Mr.W. :Soap Save the World
12.30 : All Be Damned (1990 ,Lino Brocka, Philippines) 14.30 : Working Girl (1984 ,Ishamel Bernal , Philippines)
16/3/57 Selected by Mr. R. : Eurocentric Cinema 12.30 : Dillinger is Dead (1969, Marco Ferreri, Italy ) 14.30 : Dossier 51 (1978 , Michel Deville , Italy )
23/3/57 Selected by Mr. Cy. : Cinema Politics
12.30 : Silent Wedding (2008 ,Horatiu Malale , Romania) 14.30 : After the Battle (2012 ,Yousry Nasrallah, Egypt)
30/3/57 Selected by Mr. Cc . : Japanese Gangster
12.30 : Battles Without Honor And Humanity (1973 , Kinji Fukasaku , Japan) 14.30 : A Colt Is My Passport (1967 , Takashi Nomura, Japan)
12.30 : The Dish & the Spoon (2011, Alison Bagnall , US) 14.30 : Housekeeping (1987 , Bill Forsyth ,US)
HSP: There is No Escape From the Terrors Of the Mind (2013, Rouzbeh Rashidi, Ireland, 120min) เรื่องย่อจากเว็บไซต์ของผู้กำกับ “ไม่มีหนทางใดที่จะหลบหนีได้ ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหนของโลก ไม่มีทางที่จะหลบหนีใบหน้า ไม่มีทางที่จะหลบหนีมโนภาพ ไม่มีทางที่จะหลบหนีกล้องที่คอยเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทางที่จะหลบหนีหน้ากาก ไม่มีทางที่จะหลบหนีการสะท้อนกึกก้องกันไปมาระหว่างภาพและเสียงที่ไหลซ้อนทับกัน ไม่มีทางที่จะหลบหนีภาพยนตร์ ไม่มีทางที่จะหลบหนีความน่าสะพรึงกลัวแห่งจิตใจ”
รุซเบห์ ราชิดีเป็นผู้กำกับชาวอิหร่านที่มาทำงานอยู่ในไอร์แลนด์ เขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักทำหนังทดลองในไอร์แลนด์รุ่นใหม่ ที่มี Maximilian Le Cain, Dean Kavanagh, Esperanza Callado, Alan Lambert และ Michael Higgins รวมอยู่ด้วย รุซเบห์ทำหนังยาวมาแล้ว 23 เรื่อง ซึ่งเป็นหนังทดลองทั้งหมด และแต่ละเรื่องก็มีสไตล์แตกต่างกันไป หนังเรื่องที่นำมาฉายนี้มีจุดเด่นตรงการเล่นกับบรรยากาศลึกลับของหนังสยองขวัญ โดยไม่มีเนื้อเรื่องที่ชัดเจน ผู้ชมแต่ละคนสามารถผูกโยงเรื่องราวต่างๆได้เองตามใจชอบจากภาพ, เสียง และฉากต่างๆที่ตัวเองได้เห็น ถ้าหากคุณชื่นชอบบรรยากาศในหนังของ Jean Rollin แต่ไม่ชอบเนื้อเรื่องในหนังของเขา บางทีคุณอาจจะเหมาะสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
Birth Of the Seanema (2004, Sasithorn Ariyavicha, Thailand, 70min)
สัปดาห์นี้ ฟิล์มไวรัสขอแนะนำสองคนทำหนังใต้ดินอังกฤษที่ตกสำรวจจากทุกสำนัก Jack Bond และ Jane Arden คู่รักที่ทำหนังหนักข้อในช่วงทศวรรษที่ 60s-70s การทำงานของสองคนรักจบลงด้วยโศกนาฏกรรมเนื่องจาก Jane Arden ได้ฆ่าตัวตายหลังจากทำหนังเรื่องสุดท้าย หลังจากนั้นหนังของทั้งคู่จึงไม่ถูกนำมาฉายอีกเลย จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการรีมาสเตอร์และนำกลับมาฉายใหม่จนออกดีวีดี Jack Bond สมัยหนุ่มๆ เริ่มต้นจากการทำงานโทรทัศน์, เขาเคยทำสารคดีสัมภาษณ์ Salvador Dali ก่อนจะผันตัวมาทำหนังเองเมื่อเขาได้พบกับ Jane Arden นักเขียน นักแสดง และหัวหน้าคณะละครแนวทดลองสุดขั้ว เมื่อพบรัก ทั้งคู่ได้สร้างงานอาวองการ์ดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1965-1979 (ในช่วงยุคพีคมากๆ ของทั้งคู่ Bond นั้นกำกับมิวสิควีดีโอของ The Pet Shop Boys ส่วนหนังของ Bond-Arden เรื่องสุดท้ายนั้นได้รับเกียรติเป็นหนังเปิดเทศกาลหนังลอนดอนเลยทีเดียว) หากคุณคิดว่าคุณชอบหนังที่ดูแล้วบอกว่า "ไม่รู้เรื่องอัลไลกันอีกแล้วชีวิตนี้" ถ้าคุณชอบหนัง "ผู้หญิงจิตแตกเป็นเสี่ยงๆ" นี่คือสัปดาห์ของคุณ Separation (1968 , Jack Bond ,UK)
Marco Ferreri คือออเตอร์อิตาลีตกสำรวจที่ในยุค 60-70 เขาถือว่าเป็นผู้กับยุโรปตัวร้ายที่แผลงทธิ์เดชอย่างหาตัวจับยาก หนังของเขามักสร้างความอื้อฉาวตามงานพรีเมียร์เทศกาลหนังของยุคสมัยนั้น ๆ (จนอาจเรียกได้ว่าเขาคล้ายกับลารฺส ฟอน เทรียร์สมัยก่อน) หนังของเขาหลายเรื่องทำเอาคนดูสะดุ้งจนต้องเยือนหน้าหนีอย่าง Le Grande Bouffe (1973) เรื่องของชาย 4 คนที่นัดกันมาฆ่าตัวตายโดยการกินแล้วไม่ขี้ ทำเอา อิงกริด เบิร์กแมน ประธานกรรมการเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนั้นดูเสร็จออกจากโรงมาสาปส่งหนังว่า ‘Disgusting!’ The Last Woman (1976) ทำเอาแฟนหนังพระเอกเจอราร์ด เดอปาร์ดิเยอช็อกด้วยฉากใช้มีดหั่นเนื้อตัดจู๋ตัวเอง! House of Smiles (1991) หนังชนะเลิศหมีทองคำก็ว่าด้วยคนแก่แอบเล่นเซ็กส์ในบ้านพักคนชรา! Dillinger e Morto เป็นหนังเกี่ยวกับวิศวะหนุ่มที่ทำงานดึกกลับบ้านมาเมียหลับ เลยต้องไปทำอาหารทานเอง แม้เรื่องราวจะดูไม่แรง แต่นี่เป็นหนังเกี่ยวกับผู้ชายทำงานเลทกลับบ้านดึกจนเมียหลับแล้วต้องทำอาหารทานเองที่ดีที่สุดในโลกภาพยนตร์ ถ้าฉากจบดูแล้วไม่ตกเก้าอี้นี่ก็แปลว่าคุณยืนดู
Le Dossier 51 (1978, Michel Deville)
แม้ Michel Deville จะเป็นผู้กำกับฝรั่งเศสที่ขึ้นทำเนียบว่าเป็นเจ้าของรางวัล Prix Louis Delluc ถึง 2 ครั้ง (อันเป็นรางวัลที่ถือว่ามีเกียรติที่สุดภายในฝรั่งเศส โดยในปัจจุบันมีคนที่ได้รางวัล 2 ครั้งอยู่เพียง 5 คนตั้งแต่มีการแจกกันมาตั้งแต่ปี 1937) แต่กระนั้นเลย Deville ก็ไม่ใช่ผู้กำกับฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียง เขาเริ่มทำหนังพร้อม ๆ กับกลุ่มนิวเวฟ แต่หนังของเขาก็ตลาดและ ‘ปกติ’ เกินกว่าจะเป็นนิวเวฟ พอมาในยุค 70 หนังของเขาก็เป็น genre และปรุงแต่งมากเกินกว่าพวกโพสต์นิวเวฟ และหลังจากนั้นเขาก็แก่และหวือหวาน้อยกว่ากลุ่ม cinema du look เสียแล้ว Deville เหมือนผู้กำกับอีกหลายคนในฝรั่งเศสที่ตกหล่นทางประวัติศาสตร์เพราะยืนอยู่นอกกระแสหลักในแต่ละยุค Le Dossier 51 คือภาพยนตร์ที่มาก่อนกาล มันกล้าหาญชาญชัยและบ้าบิ่นสุด ๆ มันเป็นเรื่องขององค์กรลับที่พยายามจะแทรกซึมเข้าไปหา ‘ท่านทูต’ ท่านหนึ่งเพื่อเอาข้อมูลลับของท่านทูตมาแบล็กเมล์ ในยุคสมัยที่กระบวนการทำงานของสายลับหรือตำรวจสืบสวนเป็นหัวข้อยอดฮิตของซีรียส์ทีวีหรือภาพยนตร์ แต่ Le Dossier 51 ผลักการถ่ายทอดกระบวนการทำงานขององค์กรลับใด ๆ ให้ไปสุดทางที่สุดจนเราไม่เห็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อใด ๆ นอกจากหมากและเบี้ยของกระบวนการที่ไม่ไยไพสิ่งใดนอกจากเป้าหมาย อาจเรียกได้ว่านี่คือหนังที่นำเสนอมนุษย์ได้อย่างเลือดเย็นที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกภาพยนตร์
Battles Without Honor And Humanity (1973, Kinji Fukasaku , Japan)
หนังเอพิคยากูซ่าเรื่องสำคัญโดยเจ้าพ่อหนังยากูซ่า Kinji Fukasaku เล่าเรื่องลากยาวหลายสิบปี จากไอ้หนุ่มหลังสงครามที่รวมตัวกับเพื่อนๆตั้งแกงค์ยากูซ่า และชีวิตลากยาวหลายทศวรรษที่พาเราไปชมนาฏกรรมของเลือดปืน ความตาย แบบไม่มีลิมิตและไม่มีศักดิ์ศรีอะไรทั้งสิ้น ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในหนังยากูซ่าที่สำคัญที่สุด สไตล์จัดจ้านที่สุด แลเดือดที่สุดเรื่องหนึ่ง A Colt Is My Passport (1967 , Takashi Nomura, Japan)
หนึ่งในหนังแถวหน้าของหนังแอคชั่นจากบริษัทนิคคัทสุอันโด่งดังเล่าเรื่องของสองมือปืนที่หลังจากทำงานใหญ่ก็ต้องโดนตามเก็บตามระเบียบ ทำให้ทั้งคู่ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับองค์กรของตนเอง นี่เป็นหนังเรื่องแรกๆของ Joe Shishido ฮีโร่เลือดเดือดที่กลายเป็ขวัญใจชาวญี่ปุ่นไปตลอดยุค70’s อันเป็นยุคเฟื่องฟูของนิคคัตสุ
Filmvirus เป็นนามปากกาเดิมของสนธยา ทรัพย์เย็น จากคอลัมน์ “นิมิตวิกาล” ที่ใช้ในนิตยสาร Filmview ปี 2537 ต่อมาในปี 2538 สนธยาได้ก่อตั้ง “ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์” หรือ DK.Filmhouse (Filmvirus) จัดฉายหนังด้อยโอกาสให้ผู้สนใจชมฟรี พร้อมจัดพิมพ์หนังสือด้านหนัง และวรรณกรรม ชุด Filmvirus / Bookvirus (ส่วนหนังสือ “คนของหนัง” ปี 2533 นั้นเป็นผลงานก่อนตั้งฟิล์มไวรัส) ส่วนผลงานอื่นๆ ปี 2548 เป็นกรรมการเทศกาลหนัง World Film Festival of Bangkok , ปี 2552 กรรมการ Sydney Underground Film Festival, งาน Thai Short Film and Video Festival ของมูลนิธิหนังไทยครั้งที่ 1 และปี 2548-2549 เป็นเจ้าภาพร่วมจัดเทศกาลประกวดหนังนานาชาติ 15/15 Film Festival, Australia
DK Filmhouse (Filmvirus) founded in 1995. Its mission is to promote the alternative international films (non-mainstream) to Thai audiences. All films shown are free admission. We also published film books and world literaure in translation. 99 % of our projects are without sponsors and provided by our volunteer pockets only.
รวม 2 เรื่องสั้นแปลระดับโลก (กรกฏาคม 2552) Three Drops of Blood ของ Sadeq Hedayat แปลโดย แดนอรัญ แสงทอง และ Encyclopedia of the Dead ของ Danilo Kis ธิติยา ชีรานนท์ - จำหน่ายที่คิโนะคุนิยะสองสาขา
No comments:
Post a Comment