
ฌอง-ลุค โกดาร์ ฝากสวัสดีปีใหม่แก่คอหนังทุกท่าน
Home of Overlooked Films
Kirikou and the Sorceress (1998) กำกับโดย Michel Ocelot
ภาพยนตร์อนิเมชั่นในบรรยากาศอาฟริกา เล่าเรื่องราวของ Kirikou เด็กชายวิเศษที่สามารถพูดและเดินได้ตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ เขาได้ทราบว่ามีนางแม่มดร้ายตนหนึ่งเข้ามาทำให้บ่อน้ำในหมู่บ้านเหือดแห้ง และได้จับผู้ชายกินไปเกือบหมด เหลือรอดชีวิตมาได้เพียงแค่รายเดียว Kirikou จึงตั้งใจจะร่วมเดินทางไปกับนักรบผู้นั้นเพื่อปราบนางแม่มดร้ายที่เคยมาราวีคนในหมู่บ้านแห่งนี้ให้ได้
The Umbrellas of Cherbourg (1964) กำกับโดย Jacques Demy
หนังเพลงอมตะสีสันสดใสจากฝรั่งเศสเล่าเรื่องราวรักร้างของสาวน้อย Genevieve วัย 17 (นำแสดงโดย Catherine Deveuve) และช่างเครื่องหนุ่ม Guy (นำแสดงโดย Nino Castelnouvo) ที่มาพบรักกันเพื่อจากลาเมื่อฝ่ายชายต้องไปเป็นทหารในสงครามแอลจีเรีย เมื่อฝ่ายหญิงเกิดตั้งท้องโดยที่ฝ่ายชายไม่อยู่ แม่ของเธอจึงต้องจัดการหาสามีฐานะที่จะยอมเลี้ยงดู Genevieve และลูกในท้องเพื่อเป็นการตัดปัญหา ก่อนที่ Guy จะกลับมาพบกับความจริงกันแสนเจ็บปวด ภาพยนตร์ระดับรางวัลปาล์มทองคำประจำปี 1964 ที่ใช้การร้องเพลงแทนบทสนทนาของตัวละครตลอดทั้งเรื่อง!
Orpheus (1950) กำกับโดย Jean Cocteau
กวีหนุ่มที่เกิดไปหลงใหลพระธิดาแห่งความตาย Eurydice ภรรยาของ Orpheus ถูกลูกน้องของพระธิดาทวงวิญญาณจน Orpheus ต้องตามเธอไปยังใต้พื้นโลก ความรักที่ Orpheus มีต่อ Eurydice นั้นจะสามารถช่วยชีวิตคนทั้งสองไว้ได้หรือไม่?
หัวเราะกันให้ลั่นกับภาพยนตร์คริสต์มาสสุดแสนจะน่ารักที่เล่าเรื่องราวของหนูน้อย Ralph Parker ผู้ปรารถนาอยากจะได้ปืนเด็กเล่นรุ่น Red Ryder BB เป็นของขวัญวันคริสต์มาสเสียเต็มประดา ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายกลับเห็นว่าไม่เข้าท่า เพราะ Ralph คงจะต้องเอามันมายิงเล่นจนกระเด็นเข้าลูกตาตัวเองสักวัน แต่มีหรือที่หนูน้อย Ralph จะยอมแพ้ การผจญภัยเพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันอันยิ่งใหญ่ของหนูน้อยจึงได้เริ่มต้นขึ้นในหนังคริสต์มาสที่ทั้งสนุก ตลก ซึ้ง ชวนประทับใจ อีกทั้งยังแฝงคุณค่าความหมายชนิดที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก
14.30 น. A Christmas Carol (1951) กำกับโดย Brian Desmond-Hurst
ภาพยนตร์วันคริสต์มาสสุดซึ้งระดับอมตะซึ่งสร้างจากบทประพันธ์ชื่อเดียวกันของ Charles Dickens ที่จะพาเราไปร่วมเดินทางข้ามเวลาเพื่อทบทวนการกระทำในอดีต ความสุขในปัจจุบัน และความเป็นไปในอนาคตของ Ebenezer Scrooge นักธุรกิจหน้าเลือดซึ่งเป็นที่จงชังของผู้คนทั้งลอนดอน ผ่านการมาเยือนของภูติคริสต์มาสแห่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมสามตน ที่จะทำให้มุมมองชีวิตของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่เปี่ยมล้นทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และพลังแห่งการตระหนักถึงความสุขที่แท้ของชีวิต
เรื่องราวชีวิตที่ยิ่งกว่าละครของ Urvashi เด็กหญิงยากจนที่ไต่เต้าเข้าสู่วงการจนได้เป็นนักร้องนักแสดงชื่อดังแห่งวงการบันเทิง ด้วยความดื้อรั้นเธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับ Keshav ชายผู้ชักนำเธอสู่วังวนแห่งมายาจนมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน แต่ชีวิตสมรสของเธอต้องประสบความล้มเหลว ภายหลังเธอจึงตัดสินใจไปอยู่กินกับ Vinayak ชายผู้มั่งคั่งโดยไม่รู้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว สุดท้ายเธอจึงได้รับรู้ว่า 'นรก' เป็นเช่นไร เมื่อได้เข้าไปเป็นสะใภ้ของเศรษฐีหนุ่มรายนั้น ผลงานในเด่นในยุคที่ Parallel Cinema เฟื่องฟูในอินเดียของ Shyam Benegal
The Obsession (1978) / Shyam Benegal
ความเดิมจาก Fred Kelemen Masterclass in Bangkok ตอน 1:
http://dkfilmhouse.blogspot.com/2007/09/fred-kelemen-masterclass.html(กรุณาอ่านบทสัมภาษณ์ของ Fred Kelemen โดย สนธยา ทรัพย์เย็น ได้จากหนังสือ “ฟิล์มไวรัส เล่ม 2” หรืออ่านบทความแนะนำตัว เฟรด เคเลเม็น จาก http://twilightvirus.blogspot.com/2007/10/fred-kelemen.html)
ราตรีวิเวกของ เฟรด เคเลเม็น
Fred Kelemen Master Class
จัดโดย ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส), สถาบันเกอเธ่ กรุงเทพฯ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, พระจันทร์เสี้ยวการละคร และ The World Film Festival of Bangkok ครั้งที่ 5
ขอเชิญร่วมงาน เฟรด เคเลเม็น มาสเตอร์คลาส ยอดผู้กำกับชาวเยอรมัน ซึ่งถือเป็นเจ้าของผลงานภาพยนตร์ศิลปะที่น่าจับตามองที่สุดในโลกภาพยนตร์ปัจจุบัน หนังหลายเรื่องของเขาได้รับความชื่นชมทั่วโลก หนังใหญ่เรื่องแรกของเขาคือเรื่อง Fate ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 150 อันดับสุดยอดภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ 90 (ลำดับที่ 59) ที่ไม่ได้รับการจัดจำหน่ายในอเมริกา จากการคัดเลือกของนิตยสาร Film Comment
(อ่านอันดับหนังต่างๆ ได้ที่ http://www.filmlinc.com/fcm/7-8-97/poll2.htm)
หลายประเทศได้เคยรวบรวมผลงานของเขาทั้งหมดจัดฉายแบบยกชุด ทั้งในยุโรป, นิวยอร์ค อเมริกา และ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ อีกทั้งเขายังเป็นอาจารย์สอนภาพยนตร์ และละครเวทีที่ประเทศสเปน และแลตเวียอีกด้วย
เรื่องสั้น 2 เรื่องของ ผู้กำกับ Michelangelo Antonioni ที่เพิ่งล่วงลับไปไม่นาน
เรื่องสั้น “โทรเลขสองฉบับ” (Two Telegrams) ที่มีแปลใน Bookvirus เล่ม 2
และ เรื่องสั้น “ขอบฟ้าเหตุการณ์” (The Event Horizon) ที่แปลลง Filmvirus เล่ม 1
เขียนดีถึงอยากให้อ่าน
มีใครแถวนี้เคยอ่านบ้างไหมเนี่ย
ดูหนังสือ Filmvirus ได้ที่นี่:
Filmvirus 01
http://dkfilmhouse.blogspot.com/2007/08/filmvirus-collection-part-1.html
Bookvirus 02
http://dkfilmhouse.blogspot.com/2007/08/filmvirus-collection-part-2.html
และอ่านบทวิจารณ์ La Notte ของผู้กำกับ อันโตนีโอนี่ ได้ที่ บล้อก นิมิตวิกาล (ภาษาไทย)
http://twilightvirus.blogspot.com/2007/09/1-la-notte-night-michelangelo-antonioni.html
ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ หรือ dk filmhouse (filmvirus) จัดฉายหนังด้อยโอกาสให้ผู้ชมภาพยนตร์ทั่วไปได้ชมฟรีมาตั้งแต่ปี 2538 โดยเริ่มจากเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในร้านหนังสือดวงกมล สาขาห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ จากนั้นจึงกลายเป็นหน่วยกำลังอิสระที่ใช้ทุนรอนส่วนตัว หาใช่มีองค์กรธุรกิจใด ๆ สนับสนุน กิจกรรมฉายหนังยังสืบเนื่องต่อมา ตามหอศิลป์ ร้านอาหาร สถาบันวัฒนธรรม ทีเคปาร์ค และ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นอกจากนั้นยังจัดพิมพ์หนังสือชุด filmvirus และ bookvirus ตั้งแต่ปี 2541-ปัจจุบัน (ส่วนหนังสือ "คนของหนัง" เมื่อปี 2533 เป็นผลงานก่อนตั้ง ฟิล์มไวรัส)
*******************************************************
DK Filmhouse (Filmvirus) founded in 1995. Its mission is to promote the alternative international films (non-mainstream) to Thai audiences. All films shown are free admission. We also published film books and world literaure in translation. 99 % of our projects are without sponsors and provided by our volunteer pockets only.
อ่านประวัติละเอียดได้ที่และ http://www.onopen.com/filmvirus/10-07-25/5494